บทความและข่าวสาร

‘บ้านป๊าม๊า’ กับความสุข ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นภายในบ้านพื้นที่และงบประมาณกะทัดรัด

โดย admin

2020-10-26

Location : พัฒนาการ 50 สวนหลวง กรุงเทพฯ
Owner : วีรพัฒน์ และสุพัตรา อารักษ์เวชกุล
Architect : AplusCon Architects
Photographer : จิณณวัตร บริหารกิจอนันต์

เปลี่ยนโฉมบ้านเก่าชั้นเดียวในย่านพัฒนาการให้กลายเป็น ‘บ้านป๊าม๊า’ บ้านหลังใหม่ขนาดกะทัดรัดบนพื้นที่ 50 ตารางวาที่รองรับไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบของคุณพ่อคุณแม่ในวัยเกษียณ บ้านทรงกล่องสุดเรียบง่ายที่เราเห็นทำหน้าที่เป็นใจกลางของคนในครอบครัว สร้างปฏิสัมพันธ์ และนำความสุขของสมาชิกภายในบ้านร้อยเรียงเป็นสเปซเดียวกันได้อย่างอบอุ่น โดยได้ฝีมือลูกชายอย่างคุณภพ -ศีลวัตร อารักษ์เวชกุล สถาปนิกจาก AplusCon Architects มาเป็นผู้ออกแบบ

ความสุขที่เกิดภายในพื้นที่จำกัด
เนื่องจากขนาดที่ดินที่มีเพียง 50 ตารางวา ทำให้บ้านหลังนี้มีฟังก์ชันหลัก ๆ ตรงไปตรงมา อย่างเช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องน้ำ แต่สิ่งที่พิเศษ คือ บทบาทของบ้านซึ่งรับหน้าที่เป็นใจกลางของครอบครัว เป็นพื้นที่ที่สมาชิกในครอบครัวซึ่งอาศัยอยู่ในซอยละแวกเดียวกันสามารถมาไปมาหาสู่ แวะเวียนมาพบปะสังสรรค์ และนั่งรับประทานอาหารพร้อมหน้ากันเป็นประจำ

จากบ้านเก่าชั้นเดียวหลังเล็กๆอยพัฒนาการ 50 จึงถูกแปลงโฉมใหม่ทั้งหมด เกิดเป็นบ้านทรงกล่องสีขาวสุดเรียบง่าย อบอุ่นในแบบบ้าน ๆ และตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างตรงไปตรงมา

เมื่อความชอบของป๊าผสานกับสิ่งที่ม๊าอยากได้
“มันไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการออกแบบบ้านแต่ละหลัง เพราะเจ้าของบ้านน่าจะเป็นส่วนสำคัญของงานดีไซน์นั้น ๆ อย่างบ้านหลังนี้เราก็เอาความชอบของป๊ามาใช้ เราเอาสิ่งที่ม๊าอยากได้มาผสมผสานให้เกิดเป็นบ้านของเขา” สถาปนิกเล่าถึงหัวใจสำคัญของการออกแบบบ้านหลังนี้ นั่นคือการโฟกัสไปที่ความชอบและกิจวัตรประจำวัน รวมถึงลักษณะนิสัยของคุณพ่อคุณแม่

ด้วยความที่คุณแม่รักการทำอาหารและขนมเป็นชีวิตจิตใจ บ้านหลังนี้จึงออกแบบโดยให้ความสำคัญกับห้องครัวเป็นหลัก ห้องครัวต้องใช้งานได้จริง มีขนาดที่เหมาะสม สามารถวางเตาอบขนม หรือทำอาหารไทยหลากชนิดได้อย่างสะดวก โดยพื้นที่ครัวจะเชื่อมต่อเข้าสู่ส่วนรับประทานอาหารบริเวณกลางบ้านซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวใจสำคัญแทนที่ห้องนั่งเล่นแบบที่เราคุ้นตาในบ้านทั่วไป จากพื้นที่รับประทานอาหารจะพาเราไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของบ้านอย่างห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น บันไดทางเดินขึ้นชั้นสอง และห้องนอนของคุณพ่อคุณแม่ ส่วนชั้นสองออกแบบส่วนกลางให้เป็นมุมพักผ่อนเล็ก ๆ ก่อนจะแยกเข้าสู่ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง และห้องซักรีดซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ลมและแสงธรรมชาติส่องถึง

ในการออกแบบยังคำนึงถึงการอยู่อาศัยของคุณพ่อคุณแม่ซึ่งมีอายุมาก ผู้ออกแบบจึงมีการจัดสเปซโดยตั้งใจให้ห้องนอนคุณพ่อคุณแม่อยู่บริเวณชั้นหนึ่งและมีห้องน้ำในตัว เพื่อลดการใช้บันไดเดินขึ้นลง และช่วยลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวร่างกาย รวมถึงช่องเปิดต่าง ๆ ภายใน ถูกออกแบบให้มีขนาดกว้างประมาณ 1 เมตรทั้งหมด เผื่อสำหรับการใช้งานของวีลแชร์ในอนาคต

นอกจากนั้นในแง่ของความปลอดภัย เรายังเห็นการติดตั้งราวจับในจุดต่าง ๆ อย่างเช่นห้องน้ำ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนไหวของผู้สูงอายุ และป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นจากการลื่นล้ม อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการออกแบบแสงสว่างภายในบ้านให้เพียงพอ เพื่อเอื้อให้ผู้สูงอายุสามารถมองเห็นได้ง่ายขึ้น บ้านหลังนี้จึงเน้นโทนสีขาว สว่าง สะอาดตา ช่วยทำให้บ้านดูน่าอยู่ และในอีกแง่นึงยังช่วยให้บ้านดูมีขนาดที่กว้างขึ้นได้อีกด้วย

ไม่เพียงแต่สเปซที่ตรงใจคุณแม่ แต่ในแง่ของการเลือกใช้วัสดุ สถาปนิกยังเลือกใช้ไม้เก่าที่คุณพ่อสะสมมาเป็นเวลานานจากบ้านเก่าในจังหวัดสระแก้ว เข้ามาเป็นส่วนผสมที่แสดงความอบอุ่นของบ้านได้อย่างเป็นกันเอง บริเวณพื้นระเบียงคอร์ทหน้าบ้าน โต๊ะรับประทานอาหาร หรือระเบียงหลังบ้าน ถูกออกแบบโดยใช้ไม้เก่าทั้งหมดและยังคงสภาพผิวที่ผ่านการใช้งานเอาไว้ เพื่อคงไว้ซึ่งเสน่ห์และสร้างความรู้สึกถึงความเป็นบ้านต่างจังหวัดตามแบบที่คุณพ่อคุณแม่คุ้นเคย

เรียบง่าย อยู่สบายทั้งกายและใจ
ถึงแม้บ้านป๊าม๊าจะตั้งอยู่บนที่ดินขนาดย่อม ที่เรียกได้ว่าปลูกสร้างอย่างเต็มพื้นที่เพื่อให้เกิดการใช้สอยอย่างคุ้มค่ามากที่สุด แต่ในขณะเดียวกันสถาปนิกกลับเลือกที่จะเปิดพื้นที่คอร์ทกลางบ้านให้เกิดเป็นระเบียงโล่ง เพื่อรับแสงและลมธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้าน เพิ่มความรู้สึก โปร่ง โล่ง มีอากาศหมุนเวียนได้ดี สร้างภาวะเย็นสบายให้กับผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่มักจะมีช่วงเวลาของวันในการออกมานั่งเล่น ชมบรรยากาศรอบบ้าน และสูดอากาศจากธรรมชาติมากกว่าการใช้เครื่องปรับอากาศอย่างคนเมือง

สถาปนิกออกแบบกรอบของบ้านด้วยการใช้ผนังทึบเป็นส่วนใหญ่ และเลือกใช้ช่องเปิดขนาดใหญ่บริเวณกลางบ้านในจุดที่สามารถหลบเลี่ยงการมองเห็นจากบริเวณนอกบ้านได้

โดยช่องเปิดที่ว่านั้น สถาปนิกเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กรอบบานประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก TOSTEM (ทอสเท็ม) รุ่น WE Plus และ P7 เนื่องจากไว้วางใจในระบบการผลิตและคุณภาพที่ได้มาตรฐานการรับรองผลิตภัณฑ์จากประเทศญี่ปุ่น รวมถึงมีกรอบบานเล็ก สร้างความสวยงาม ช่วยลดทอนทำให้บ้านไม่ดูใหญ่เทอะทะและดูแคบกว่าที่ควรจะเป็น อีกทั้งคุณสมบัติที่เเข็งแรงทนทาน กันเสียงรบกวนได้ดี โดยบ้านหลังนี้ สถาปนิกผู้เป็นลูกชายเลือกใช้อะลูมิเนียมสี Ivory White เพื่อให้กรอบบานยังคงความเด่นชัด แต่ในขณะเดียวกันก็กลมกลืนกับสีขาวของตัวบ้าน ช่วยทำให้บ้านดูกว้าง โล่งขึ้นได้อีกทางหนึ่ง

เหตุผลที่ผู้ออกแบบเลือกใช้ TOSTEM คือ มุ้งลวดที่มาพร้อมบานเปิด ตอบโจทย์สำหรับการใช้งานภายในบ้านพักอาศัยของคนไทย เนื่องจากช่วยป้องกันแมลงและไรฝุ่นต่าง ๆ ในขณะที่ยังเอื้อให้สามารถเปิดระบายอากาศให้ลมธรรมชาติไหลผ่านได้

ถึงแม้จะมีพื้นที่และงบประมาณกะทัดรัดแต่ ‘บ้านป๊าม๊า’ ก็พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าบ้านที่อบอุ่นน่าอยู่อาศัยนั้น ไม่จำเป็นต้องมีขนาดที่ใหญ่โต ด้วยฟังก์ชันของบ้านที่ตอบสนองความต้องการของทั้งคุณพ่อ คุณแม่และครอบครัวได้แบบกำลังพอดีในขนาดพื้นที่ใช้สอย 300 ตารางเมตร ถือเป็นตัวอย่างของการจัดสรรพื้นที่ในเขตเมืองที่มีจำกัด รวมถึงยังคำนึงถึงการใช้งานของผู้สูงอายุที่ต้องการความสะดวกสบายและปลอดภัยได้อย่างลงตัว

ย้อนหลัง

สรุปแนวคิดสำคัญในงาน TOSTEM Creative Talk Re-imagine The Living Space

หมวดสินค้า
ประเภทที่ได้รับความนิยม	DIY Bath Room Entrance Door Window

ค้นหาสินค้า

สถานที่

บทความและข่าวสาร

เรื่องที่คุณอาจสนใจ