ตลอดเวลาที่ผ่านมาหัวเมืองใหญ่อย่างหาดใหญ่มักสร้างความตื่นเต้นและความคาดหวังในการลงทุนด้านต่างๆ ด้วยอัตราการขยายตัวของเมืองและเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์แนวราบที่ต่างพากันงัดกลยุทธ์เพื่อครองใจผู้บริโภค ด้วยการแข่งขันที่เข้มข้นดังกล่าวทำให้บ้านจัดสรรในหาดใหญ่มีความหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้ทาง TOSTEM ได้รับโอกาสจาก คุณศุภชัย รุจิเรืองโรจน์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลาและเจ้าของโครงการ Poonakan Connect (ปุณณกัณฑ์ คอนเนค) มาร่วมพูดคุยถึงทิศทางในวงการอสังหาริมทรัพย์ในหาดใหญ่ รวมถึงแนวความคิดในการออกแบบโครงการปุณณกัณฑ์ คอนเนค ว่าอะไรที่ทำให้ตัวโครงการถูกบอกปากต่อปากจนถูกจับจองหมดในเวลาอันรวดเร็ว
Poonakan Connect หรือ ปุณณกัณฑ์ คอนเนค เป็นโครงการบ้านจัดสรรที่มีทั้งประเภทบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด โดยชื่อ ปุณณกัณฑ์ คอนเนค มาจากทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพสูงที่เชื่อมต่อไปยังสถานที่สำคัญในหาดใหญ่ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว แต่นอกจากการเชื่อมต่อที่ส่งผลถึงไลฟ์สไตล์แล้ว ทางคุณศุภชัยยังมีเกณฑ์อื่นๆ ในการทำโครงการเพื่อให้ที่นี่เป็นโครงการที่เชื่อมต่ออนาคตที่ดีให้ลูกบ้านอย่างแท้จริง
‘เราเลือกทำโครงการที่สอดคล้องกับบริบทที่เป็นอยู่ให้มากที่สุดครับ นอกจากที่ตั้งแล้ว เรายังมองไปถึงธรรมชาติหรือต้นไม้ทั้งในและนอกโครงการ ด้วยพื้นที่เกือบหกไร่ครึ่ง ในโครงการจะประกอบด้วยบ้านแฝด 26 ยูนิตและบ้านเดี่ยว 12 ยุนิต ซึ่งสำหรับต่างจังหวัด โครงการที่มีไม่เกิน 50 ยูนิตถือว่ากำลังดีในแง่ของการบริหารจัดการครับ ไม่มากไม่น้อยเกินไป โดยกลุ่มลูกค้าเราเป็นกลุ่มกลาง-บน เราพยายามเน้นบ้านที่มีความแตกต่างในเรื่องของสไตล์และความสวยงาม ซึ่งถ้าเปรียบเทียบเป็นคน ปุณณกัณฑ์ คอนเนค คือคนที่เปรี้ยวที่เฉี่ยวดูทันสมัยดูมีของ เมื่อมาดูโครงการเราอย่างน้อยต้องชอบก่อน โดยตัวบ้านจะเป็นสไตล์โมเดิร์น แต่ก็ไม่ได้โมเดิร์นมากจนเกินไปเนื่องจากวัสดุและรูปทรงหลังคาที่เราเลือกใช้ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุและสีที่ดูสบายตาและเรียบง่ายอย่างสีเข้มเพื่อให้บ้านของเราดู timeless ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีครับ’
อะไรที่ทำให้โครงการปุณณกัณฑ์ คอนเนค โดดเด่นและแตกต่างจากโครงการอื่นๆ
‘วัสดุและสุขภัณฑ์ทุกอย่างที่เราเลือกมานั้นล้วนผ่านกระบวนการคิดมาอย่างดี โดยเรามั่นใจว่าเป็นของที่คุ้มค่าคุ้มราคาอย่างมากสำหรับกลุ่มบ้านราคานี้ เพราะเราตั้งใจเลือกของที่ลูกบ้านต้องใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและได้ประโยชน์ในเรื่องของการใช้สอยจริงๆ เรามองลูกค้าเป็นหลัก’
ก่อนจะเริ่มทำโครงการทางคุณศุภชัยมีโจทย์ในการออกแบบอย่างไรบ้าง
‘จริงๆ เราพัฒนาแบบเอง เนื่องจากไม่ได้เป็นโครงการสเกลใหญ่ เราจึงรวบรวมสถิติแบบบ้านที่เราเคยทำ รวบรวมข้อดีแล้วนำมาวิเคราะห์ทั้งเรื่องของสไตล์และฟังก์ชันที่ลูกบ้านพึงพอใจแล้วจึงนำมาพัฒนาต่อยอด โดยทุกๆ โครงการที่เปิดใหม่จะมีการปรับแบบจากเดิมประมาณ 30-40% ซึ่งสำหรับโครงการปุณณกัณฑ์ คอนเนคนั้นถูกออกแบบและพัฒนาภายใต้โจทย์ที่ว่าจะทำอย่างไรให้บ้านแฝดเหมือนบ้านเดี่ยว ซึ่งภายในบ้านเราจะสเปควัสดุทุกอย่างเหมือนบ้านเดี่ยวครับ’
แล้วฟังก์ชันภายในบ้านมีความพิเศษอย่างไร
‘เนื่องลูกค้าเราเวลาซื้อบ้านมักจะต้องต่อเติมเกือบทุกราย ด้วยประสบการณ์ที่เจอ อะไรที่เราคิดแทนลูกบ้านได้เราจะเตรียมไว้ให้ครับ เช่นส่วนที่มักต้องทุบหรือต่อเติม เราจะเลือกวัสดุที่ลูกบ้านสามารถรื้อได้โดยไม่กระทบต่อโครงสร้าง แต่อะไรที่เปลี่ยนน้อยอย่างกระเบื้องห้องน้ำเราก็จะเลือกลายกระเบื้องที่สวยงามและคุณภาพสูงไปเลย หรือฝ้าเพดาน เราจะคิดให้เลยว่าส่วนไหนที่ควรเป็นฝ้าหลุมหรือใส่รางผ้าม่าน ทางโครงการก็จะก่อสร้างให้เรียบร้อย เพราะเราตั้งใจคิดมาให้เรียบร้อยแล้ว รวมถึงเรื่องราคาที่คุ้มค่า ยกตัวอย่างเช่นฝ้าหลุมที่เราออกแบบไว้ให้ หากลูกค้าไปทำเองจะมีราคาแพงกว่าที่เราเตรียมไว้ให้ ทั้งนี้เพราะเราอยากให้บ้านมีความพร้อมสำหรับการเริ่มต้นชีวิตของลูกบ้านให้ได้มากที่สุด’
สำหรับโครงการปุณณกัณฑ์ คอนเนค คุณศุภชัยเป็นคนเลือกเลือกวัสดุตัวตนเอง
‘ใช่ครับ ส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนเลือกเอง เพราะเน้นเป็นโอเวอร์สเปคอยู่แล้ว รวมถึงการที่เราเลือกใช้ TOSTEM ครับ’
รู้จัก TOSTEM ได้อย่างไร
‘ในจังหวะที่กำลังเลือกโปรดักส์อลูมิเนียมตอนนั้นมีคนแนะนำ TOSTEM มาครับ ซึ่งสำหรับโครงการนี้เราใช้รุ่น We70 สี Autumn brown และ Exterior สี Natural Black สำหรับผมเองการจะเลือกซื้ออะไรไม่ได้ดูที่ราคาว่าถูกหรือแพงมาเป็นอันดับแรก ผมจะดูแค่ว่าความต่างของราคานี่คุ้มมั้ย โดยที่เลือกใช้ TOSTEM เนื่องจากมีสีสวย คุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผลและเรามองว่าสิ่งที่ได้นั้นคุ้มค่าครับ’
ความท้าทายในการออกแบบโครงการปุณณกัณฑ์ คอนเนค
‘บริษัทเรามักจะเป็นเจ้าแรกๆ ในการขึ้นโครงการในแต่ละย่าน จึงเกิดเป็นความท้าทายในแง่ของผู้นำและในเรื่องของการตลาดว่าจะสามารถขายได้หรือไม่ หรืออย่างบางทำเลต้องดูจังหวะและทิศทางการตลาดถึง 7 ปีกว่าผมจะมั่นใจในการขึ้นโครงการ จริงๆ มันเป็นเรื่องของความสมดุลกันนะครับ ระหว่างทำเล โปรดักส์ ราคาและกลุ่มลูกค้าด้วย’
คุณศุภชัยมีมุมมองในการเลือกซื้อที่ดินในการทำโครงการต่างๆ อย่างไร
‘เป็นเรื่องของจังหวะและเวลา หรือมองไปถึงเรื่องของมหภาคด้วยนะครับ อย่างภายใน 3 ปีเรามองว่าเศรษฐกิจไม่น่าจะดีขึ้น เราก็ยังไม่ซื้อ อีกประเด็นคือ เราต้องมองถึงกรณีที่อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดด้วย ยกตัวอย่าง เราทำโครงการหนึ่งออกมาแล้วปรากฏว่าได้กำไรน้อยกว่าแต่การได้กำไรน้อยนั้นเราจำเป็นต้องขายโครงการให้หมด เราต้องมองเป็นขั้นต่ำมาสเต็ปหนึ่งก่อนเสมอ’
ด้วยความสามารถในการเลือกซื้อที่ดินรวมถึงการออกแบบโครงการให้เหมาะกับทำเลที่ตั้ง อยากทราบว่าทางศุภชัยเคยมีประสบการณ์ในการทำอสังหาฯ มาก่อนหรือไม่ และมีจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจนี้ได้อย่างไร
‘เดิมทีผมเป็นคนหาดใหญ่ คุณพ่อคุณแม่ก็เป็นคนหาดใหญ่ครับ จนไปเรียนจบจากคณะวิศวกรรมฯ โยธาจาก จุฬาฯ แต่บังเอิญว่าปีที่ผมจบมาเป็นปี พ.ศ.2540 ที่เศรษฐกิจฟองสบู่แตกพอดี จึงได้กลับมาทำธุรกิจเดิมของครอบครัวซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ จนทำมาประมาณ 4-5 ปี เศรษฐกิจเริ่มฟื้นและเราเห็นสัญญาณอะไรบางอย่างก่อน คือ ที่ดินที่เรามีเริ่มมีคนมาสนใจ ตอนนั้นก็ยังไม่ได้เริ่มทำโครงการบ้านนะครับ ตอนแรกจะเน้นไปเรื่องของการซื้อขายที่ดินก่อน จนมาเริ่มทำบ้านขายและปรากฏว่าขายดี จากนั้นก็ทำมาตลอดเป็นเวลากว่าสิบกว่าปีแล้ว จนตอนนี้เราวนมาชนกับเศรษฐกิจไม่ดีอีกรอบแล้วครับ
ในตอนแรกที่เริ่มทำโครงการบ้าน ผมทำธุรกิจนี้โดยมีผมคนเดียว เริ่มจากการนำวิชาความรู้ที่เรียนมาช่วยในการทำธุรกิจ แล้วก็บริหารจัดการคนเดียวอยู่ 3-4 ปี คือถ้าเรารู้ เราทำเองได้ด้วยก็เท่ากับว่าจบไปอีกหนึ่งปัญหาแล้ว จากนั้นเวลาเกิดปัญหาขึ้นมาเราต้องจับมาแยก อย่าจับมามัดรวมกัน แก้ทีละอย่างแล้วมันจะค่อยๆ คลี่คลายเองครับ’
อยู่ในธุรกิจอสังหาฯ มานานเคยมีช่วงเวลาหมดแรงบันดาลใจในการทำงานบ้างหรือไม่ แล้วมีวิธีหาแรงบันดาลใจในการทำงานอย่างไร
‘Passion เท่ากับกำไรครับ แต่มันจะมีช่วงที่เราติดขัดในขั้นตอนการทำโครงการ ช่วงนั้น passion ก็น้อยลงบ้าง ส่วนวิธีหาแรงบันดาลใจมาจากการที่เราได้ไปพบเจอวัสดุหรือนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้ใช้ในบ้านเรา เราก็อยากนำมาใช้ เป็นอีกส่วนสำคัญที่เราอยากทำงานครับ’
มุมมองต่อทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในหาดใหญ่
‘ถ้าเทียบในต่างจังหวัดผมเชื่อว่าในหาดใหญ่ค่อนข้างเหนือกว่าจังหวัดอื่น หมายถึงถ้าไม่รวมเชียงใหม่หรือชลบุรีนะครับ เพราะที่หาดใหญ่คอนโดฯ ก็ขึ้นเยอะและขายได้หมด ส่วนมุมมองต่อทิศทางอสังหาฯ แนวราบผมว่ายังไปได้ แต่ราคาขายน่าจะยังไม่สามารถปรับราคาขายได้อย่างน้อย 2 ปี หรือบางโครงการอาจต้องโละขายโดยต้องลดราคาอย่างน้อย 20-30% เหมือนอย่างที่บางคนได้กล่าวไว้ว่ายุคทองของอสังหาฯ ได้ผ่านไปแล้ว คงต้องรอให้เศรษฐกิจกลับมาดีอีกครั้งครับ’
คาดหวังกับโครงการปุณณกัณฑ์ คอนเนคอย่างไรบ้างคะ
‘ตัวยอดขายจะเป็นตัวบอกเองครับ จริงๆ เราโฆษณาเกี่ยวกับมันน้อยมาก ลูกค้าซื้อไปอยู่แล้วมีความสุขก็เท่ากับเป็นการบอกปากต่อปาก ลูกบ้านเจอผมต้องยิ้มแย้ม นอกจากนั้นเรายังเน้นความเรียบร้อยและความสะอาด เราลงทุนในส่วนของ facility เต็มที่ลงทุน 100% ทุกที่ในโครงการจะไม่มีทั้งขยะและเศษวัสดุ ซึ่งเรื่องนี้ผมขอยกให้ความดีความชอบคุณแม่ครับ คุณแม่จะใส่ใจเรื่องนี้มาก’
ทำงานมาต่อเนื่องมาหลายสิบปี อะไรคือความสุขในการทำงานในทุกๆ วัน
‘ความสุขในการทำงานในทุกๆ วันคือ ผมคิดเสมอว่ากำลังทำบ้านของตัวเองอยู่ครับ เป็นอีกหนึ่ง passion ในการทำงานที่สำคัญเพราะสำหรับ โครงการปุณณกัณฑ์ คอนเนค นั้นมองว่าบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นสเปซที่ทำหน้าที่เชื่อมความสุขและไลฟ์สไตล์ให้ถึงกันครับ’
มาทำบ้านให้น่าอยู่กันเถอะ! 10 Tips ดีๆ เพื่อการปรับเปลี่ยนห้องให้อยู่สบาย พร้อมสุขลักษณะที่ดี
Graceland Family Residences – Chiangmai ‘บ้านรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตไปพร้อมกับลงทุนได้อย่างคุ้มค่า’
Plover Cove Luxury Villas กล้าที่จะแตกต่างทั้งฟังก์ชันและดีไซน์เพื่อคุณภาพชีวิตระดับลักซ์ชัวรี่
Double Skin House บ้านรักสงบที่ปิดมุมมองจากภายนอก เพื่อเปิดพื้นที่แห่งการอยู่อาศัยที่ถูกซ่อนไว้ภายใน
FENCE & GATE UNIQUE FEATURES ฟีเจอร์เฉพาะของรั้วทอสเท็ม เพื่อความงามและการใช้งานที่ลงตัว
GRAND PHETCHARAT โครงการระดับลักซ์ซัวรี่ไม่ได้ดีมีดีแค่ความหรูหรา แต่คือความใส่ใจในทุกรายละเอียด