หลายครั้งที่แสงเข้ามามีบทบาทในงานสถาปัตยกรรม ไม่เว้นแม้แต่ “บ้าน” สถาปัตยกรรมที่ต้องการแสงธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อเพิ่มชีวิตชีวาให้กับพื้นที่ต่างๆ และเปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้น่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งบ้าน “S71 House” ที่เรานำมาถ่ายทอดในวันนี้ ก็เป็นบ้านที่ถูกรีโนเวทใหม่โดยให้ความสำคัญกับเรื่องของแสงและทิศทางของแสงที่ตกกระทบเข้ามาภายในบ้าน เปลี่ยนบ้านที่มืดทึบให้สว่างในปริมาณที่พอดี ด้วยการออกแบบเปลือกอาคารจากองศาแสงแดด ผลงานสุดสร้างสรรค์จาก “คุณหนุ่ม-สิทธิชัย ชมภู” สถาปนิกแห่ง PERSPACETIVE
เดิมทีบ้านหลังนี้เป็นบ้านสไตล์ Swiss Chalet ที่เจ้าของอยู่อาศัยมานานกว่า 30 ปี แต่เนื่องด้วยปัญหาความลาดของหลังคาที่มากเกินไปส่งผลต่อแรงปะทะน้ำฝน และบรรยากาศภายในบ้านที่ค่อนข้างทึบ ช่องแสงค่อนข้างน้อย จึงต้องการรีโนเวทบ้านใหม่ในสไตล์โมเดิร์นที่เรียบง่ายและรีเฟรชบรรยากาศให้มีชีวิตชีวาเพื่ออยู่อาศัยในยามเกษียณ รวมถึงมอบเป็นของขวัญให้กับลูกสาวในคราวเดียวกัน นำมาสู่การออกแบบบ้านทีละขั้นทีละตอน
ภาพบ้านก่อนการรีโนเวท Credit: PERSPACETIVE
สถาปนิกเริ่มต้นออกแบบรูปทรงของบ้าน เปลี่ยนโครงสร้างหลังคาจากหลังคาทรงจั่วที่มีปัญหาทั้งหมดเป็นทรงโมเดิร์น ลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยมที่มีเส้นสายทางสถาปัตยกรรมเรียบง่าย และดูทันสมัย พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาแรงปะทะน้ำฝนในเวลาฝนตกด้วยในคราวเดียวกัน ส่วนพื้นที่ภายนอกมีการขยับขยายทางเข้าใหม่และเพิ่มพื้นที่จอดรถจากเดิม 2 คันเป็น 4 คัน เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานต่อไปในอนาคต
ภูมิทัศน์รอบตัวบ้านเดิมทีเจ้าของปลูกต้นไม้ไว้หลายจุด ภาพรวมค่อนข้างรกและดูแลยาก สถาปนิกจึงปรับเปลี่ยนแนวทางการออกแบบสวนใหม่ในรูปแบบ ‘ฮาร์ดสเคป’ ผ่าน Pocket Garden พื้นที่พักผ่อนเล็กๆด้านข้างโรงจอดรถในทิศเหนือ โดยโรยกรวดแทนการปลูกหญ้า ปลูกต้นไทรเกาหลีขนาบไปกับแนวรั้วรอบๆบ้าน และสร้างกำแพงหินกับบางส่วนของผนังภายนอกที่เพิ่มความหลากหลายของวัสดุ สามารถดูแลได้ง่าย และเพิ่มบรรยากาศธรรมชาติจากภายนอกสู่ภายใน
พื้นที่ภายในเน้นการตกแต่งให้บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและโปร่งโล่งมากที่สุด ด้วยการใช้ผนังสีขาวและเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน บวกกับออกแบบฟังก์ชันต่างๆภายในห้องนั่งเล่น ให้มีส่วนดับเบิ้ลสเปซ เพดานที่ปรับเปลี่ยนฟอร์มจากจั่วเดิมให้สูงขึ้น ทำให้พื้นที่ใช้สอยดูกว้าง พร้อมกับเปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามา ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นพื้นที่ที่เจ้าของบ้านใช้เวลาระหว่างวันมากที่สุด
ด้วยแนวความคิดในการออกแบบให้บ้านมีบรรยากาศที่สดใสมีชีวิตชีวา แสงธรรมชาติก็เป็นองค์ประกอบที่จำเป็นไม่ใช่น้อย แต่ทว่าเจ้าของบ้าน(คุณแม่)แพ้แสงแดด สถาปนิกจึงต้องให้ความสำคัญของช่องเปิดในทิศตะวันตกมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นทิศที่แสงกระทบบ้านโดยตรงตลอดทั้งวัน ซึ่งผลลัพธ์ก็คือการออกแบบฟาซาดอะลูมิเนียมคอมโพสิทสีขาวทิศตะวันตก ที่รูปทรงนั้นมาจากองศาของแสงแดดที่ตกกระทบกับบ้าน โดยแบ่งเป็นช่องเล็กๆทั้งหมด 10 ช่อง ในขนาดที่แตกต่างกัน เพื่อให้แสงที่ส่องเข้ามามีความนุ่มนวลในปริมาณที่เหมาะสม และปรับเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาได้อย่างน่าสนใจ ส่วนฟาซาดระแนงไม้ในชั้นสองที่โอบล้อมตัวบ้านในส่วนที่เหลือ ถูกเซทระยะออกมาจากผนังและระเบียง เพื่อเพิ่มมิติความสวยงาม ในขณะที่สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน
ส่วนช่องเปิดอื่นๆภายในบ้านอย่างประตูหน้าต่างภายในชั้นหนึ่งของบ้าน สถาปนิกเลือกใช้บานสไลด์ที่สะดวกแก่การเปิดสู่ระเบียงด้านข้าง พื้นที่พักผ่อนที่ดึงธรรมชาติภายนอกเข้ามาสู่พื้นที่ภายในบ้านให้น่าอยู่อาศัยและมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม รวมไปถึงการเลือกใช้แบรนด์วงกบอะลูมิเนียมที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพสูง เนื่องจากเจ้าของบ้านต้องการวัสดุที่มีความทนทาน ป้องกันการรั่วซึมของน้ำเมื่อเวลาฝนตกได้ดี ซึ่งสถาปนิกเองก็เลือกใช้วงกบประตูและหน้าต่างจากแบรนด์ TOSTEM ทั้งหมด เพราะมั่นใจในคุณภาพทั้งสินค้าและการบริการ
“ผมมองว่าประตูและหน้าต่างเป็นส่วนที่เราใช้ค่อนข้างบ่อย เปิดและปิดทุกๆวัน
รีโนเวทบ้านใหม่ทั้งทีก็อยากให้เจ้าของบ้านใช้ของที่ดีและมีคุณภาพ คุ้มค่าในระยะยาวไปเลย โชคดีที่เจ้าของบ้านเห็นตรงกัน และ TOSTEM ก็เป็นแบรนด์ที่เราเคยใช้กับโปรเจกต์อื่นมาก่อน ที่นอกจากเราจะไว้ใจและเชื่อมั่นในเรื่องของการกันฝน กันเสียงต่างๆได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว สีที่ผลิตออกมาบางเฉดยังมีความพิเศษ ไม่เหมือนใคร ซึ่งเราเลือกใช้ TOSTEM รุ่น P7 และ WE70 สี Shine Grey สำหรับประตูหน้าต่างภายในบ้าน S71 House ทั้งหมด เนื่องจากเป็นสีพิเศษที่ไม่เหมือนแบรนด์ไหน ดูเป็นธรรมชาติ และเข้ากับมูทแอนด์โทนของการตกแต่งภายในได้อย่างกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว”
เนื่องจากเจ้าของบ้านอยู่อาศัยบ้านหลังนี้มาอย่างยาวนาน จึงมีสิ่งของอยู่เป็นจำนวนมาก หลังจากที่ระบายสิ่งของออกไปบ้างแล้ว ก็ยังหลงเหลืออยู่จำนวนไม่น้อย ห้องนอนในชั้นสองจึงถูกออกแบบให้มีพื้นที่เก็บของและตู้เสื้อผ้าซ่อนไว้ภายในผนังในปริมาณที่มากกว่าปกติ เพื่อรองรับการใช้งานที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นก็ทำให้พื้นที่วางตำแหน่งสำหรับหน้าต่างน้อยลง แต่กลับไม่เป็นปัญหาเพราะตรงกับความต้องการของเจ้าของพอดีที่ไม่ต้องการแสงเข้ามารบกวนขณะนอนหลับในเวลากลางคืน หน้าต่างภายในห้องนอนจึงเป็นหน้าต่างบานแคบขนาบหัวเตียงสองด้าน ที่เพียงพอกับการเปิดรับแสงแดดในยามเช้า
เรารู้กันดีว่าแสงแดดมีผลต่อบรรยากาศของพื้นที่ เปลี่ยนบ้านที่เคยมืดทึบให้กลายเป็นบ้านที่สว่างสดใสได้ในพริบตา ซึ่งสำหรับบ้าน S71 House หลังนี้ ก็ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สะท้อนให้เราเห็นนั่นคือ วิธีในการนำพาแสงเข้ามาอย่างไรให้เหมาะสมและตอบโจทย์ตัวตนของเจ้าของบ้าน ผ่านองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่นำองศาของแสงแดดมาใช้ออกแบบ เรียกได้ว่าเป็นความสุขที่เกิดขึ้นมาในรูปแบบของแสงแดดอย่างแท้จริง
มาทำบ้านให้น่าอยู่กันเถอะ! 10 Tips ดีๆ เพื่อการปรับเปลี่ยนห้องให้อยู่สบาย พร้อมสุขลักษณะที่ดี
Graceland Family Residences – Chiangmai ‘บ้านรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตไปพร้อมกับลงทุนได้อย่างคุ้มค่า’
Plover Cove Luxury Villas กล้าที่จะแตกต่างทั้งฟังก์ชันและดีไซน์เพื่อคุณภาพชีวิตระดับลักซ์ชัวรี่
Double Skin House บ้านรักสงบที่ปิดมุมมองจากภายนอก เพื่อเปิดพื้นที่แห่งการอยู่อาศัยที่ถูกซ่อนไว้ภายใน
FENCE & GATE UNIQUE FEATURES ฟีเจอร์เฉพาะของรั้วทอสเท็ม เพื่อความงามและการใช้งานที่ลงตัว
GRAND PHETCHARAT โครงการระดับลักซ์ซัวรี่ไม่ได้ดีมีดีแค่ความหรูหรา แต่คือความใส่ใจในทุกรายละเอียด